เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อใช่ไหมล่ะว่า กล้องถ่ายรูป ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันจะมีจุดเริ่มต้นมาจากการสังเกตเห็นภาพเสมือนจริงในลักษณะกลับหัวบนผนังภายในห้องที่ทึบและอับแสง โดยเป็นภาพที่เกิดจากแสงเล็ดลอดเข้าไปในห้องจึงเกิดภาพเหมือนบนผนังอีกด้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ต่อมาได้มีการนำภาพที่เห็นนั้นมาใช้ในการประดิษฐ์กล้องออบสคิวรา หรือเรียกอีกอย่างว่า Camera Obscula โดยคำว่า Camera มีความหมายว่าห้องและ Obscula แปลว่ามืดโดย Johannes Zahn ได้คิดค้นและทำกล้อง Obscula ออกมาหลายแบบและค่อย ๆ พัฒนาให้สามารถใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็นการใส่กระจกให้แสงสะท้อนขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเรื่องภาพกลับหัว การนำชิ้นส่วนเลนส์เข้ามาประกอบกับกล้องเพื่อให้ได้รูปที่คมชัดและสว่างมากขึ้น ถัดจากนั้นก็ได้มีนักคิดค้นอีกหลายคนเข้ามามีบทบาทในการพัฒนากล้องถ่ายรูปเช่น William Henry Talbot เป็นผู้พัฒนาระบบ Calotype หรือที่เรียกกันในชื่อของกล้อง Daguerreotype กล้องชนิดพิเศษที่สามารถกลับสีของภาพได้ วิธีนี้สามารถนำภาพต้นฉบับมาสร้างสำเนาได้เป็นจำนวนหลายชุด จนกระทั่งปี ค.ศ. 1888 ทางบริษัท Eastman Dry Plateได้สร้างกล้องถ่ายรูปแบบฟิล์มราคาย่อมเยาขึ้นมาเป็นครั้งแรกชื่อว่า Kodak และในขณะเดียวกันก็ผลิตฟิล์มม้วนเพื่อรองรับการใช้งานของกล้อง Kodak ด้วย นี่คือจุดเริ่มต้นของวงการกล้องถ่ายภาพจากแสงสะท้อนกลับหัวสู่กล้องฟิล์มและพัฒนามาเป็นกล้องดิจิตอลแบบในปัจจุบัน
ประเภทของกล้องถ่ายรูป
นับเป็นเวลาหลายร้อยปีกับวิวัฒนาการการเติบโตของวงการ กล้องถ่ายรูป แม้จุดเริ่มต้นจะมาจากกล้องฟิล์มแต่ปัจจุบันมีกล้องให้คนที่รักการถ่ายภาพได้เลือกใช้ตามความชื่นชอบอย่างหลากหลายและกล้องแต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างทั้งด้านราคา ขนาด รูปร่างของกล้อง การใช้งาน รวมไปถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการถ่ายก็แตกต่างกันและมีเอกลักษณ์เฉพาะตามกล้องประเภทนั้น ๆ จะเป็นเรื่องดีอย่างมากหากนักถ่ายภาพมือใหม่มาทำความรู้จักกับประเภทของกล้องเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการเริ่มถ่ายภาพ บทความนี้จะนำเสนอกล้องถ่ายภาพที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมาให้ท่านได้อ่านโดยมีทั้งหมด 5 ชนิดดังนี้
1.กล้องฟิล์ม (SLR)
กล้องชนิดแรกของโลก ที่เหมือนว่าล้าหลังมาก แต่ปัจจุบันกล้องฟิล์มกับได้รับความนิยมอย่างมากจากช่างภาพมือโปรและมือสมัครเล่นทั่วโลกด้วยเหตุผลง่าย ๆในเรื่องของความคลาสสิคเพราะหลังจากถ่ายแล้วจะต้องนำฟิล์มไปล้างจึงเหมือนได้ย้อนกลับไปในยุคอดีตที่ต้องใช้ในเวลารอคอยเมื่อต้องการชมภาพหนึ่งภาพ โดยหลักการของ กล้องถ่ายรูปแบบฟิล์ม นั้นใช้วิธีการมองเห็นภาพผ่านเลนส์โดยกระจกจะสะท้อนภาพที่อยู่ในกล้องเมื่อมีการกดชัตเตอร์เท่ากับแสงจะสาดเข้าไปสู่ฟิล์ม รูปภาพจึงปรากฏอยู่ที่ฟิล์มของกล้อง ด้วยความที่กล้องฟิล์มเป็นกล้องที่มีกลไกค่อนข้างน้อยจึงดูแลง่ายใช้งานอย่างสมบุกสมบันได้ แต่ค่อนข้างสิ้นเปลืองในเรื่องของการซื้อฟิล์มรวมถึงค่าใช้จ่ายในการล้างรูปออกมาดู นอกจากนี้กล้องฟิล์มในอดีตยังไม่มีโหมด Auto ในการถ่ายภาพจึงจำเป็นต้องมีความรู้ในการถ่ายภาพเบื้องต้นเช่นการกำหนด speed shutter รูรับแสง รวมถึงค่า ISO ให้สัมพันธ์กันเพื่อให้ภาพออกมาสมบูรณ์และชัดเจนมากที่สุด ปัจจุบันกล้องฟิล์มถูกเลิกผลิตไปแล้ว สำหรับคนที่สนใจที่จะหาซื้อมาไว้ใช้แนะนำให้ซื้อตามร้านขายกล้องมือสองหรือตามเว็บไซต์ขายกล้องฟิล์มที่น่าเชื่อถือได้เท่านั้น
2.กล้องดิจิตอล DSLR
มีความคล้ายกล้องฟิล์มที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้เพียงแต่กลไกด้านในของ กล้องถ่ายรูป มีการพัฒนาจากฟิล์มมาใช้เป็นเซ็นเซอร์รับภาพแทนฟิล์มและมีการประมวลผลแปลงค่าสัญญาณจากเซ็นเซอร์มาเป็นรูปภาพ นอกจากนี้กล้องดิจิตอล DSLR ยังเพิ่มโหมดการถ่ายภาพแบบสำเร็จรูปมาให้ช่างภาพมือใหม่ลองใช้ถ่ายแบบง่าย ๆ เช่นโหมด A P S ในปัจจุบันกล้อง DSLR ยังคงเป็นที่นิยมอยู่มาก ด้วยเพราะภาพลักษณ์ของกล้องที่ดูเป็นมืออาชีพและคุณภาพของภาพที่ได้มีคุณภาพสูงตามรุ่น ภาพจึงออกมาสวยงาม เชื่อเลยว่าช่างภาพที่เลือกใช้กล้อง DSLR จะไม่ผิดหวังในคุณภาพงานอย่างแน่นอน
3.กล้องคอมแพคเป็น
กล้องถ่ายรูปขนาดเล็ก ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ กล้องคอมแพคไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้แต่จะสามารถซูมได้ไกลโดยมีระบบการซูม 2 แบบคือ optical zoom และ digital zoom โดย optical zoom เป็นการซูมระดับปกติโดยช่างภาพจะสามารถซูมได้ตามระยะที่กล้องถูกออกแบบไว้ หลังจากใช้การซูมแบบ optical zoom ไปแล้วหากยังต้องการซูมต่ออีก ระบบกล้องจะเปลี่ยนเป็นดิจิตอลซูมโดยทันทีแต่ภาพที่ได้จะขาดความชัดภาพถูกลดคุณภาพของภาพลงและเกิดภาพแตกได้ง่าย เนื่องจากเป็นการนำภาพที่ได้จาก optical zoom มาขยายเป็นแบบดิจิตอลจึงไม่ค่อยละเอียด โดยทั่วไปกล้องคอมแพคจะใช้งานง่ายมาก โดยช่างภาพสามารถเลือกโหมดที่กล้องถูกออกแบบมา จากนั้นเพียงแค่กดชัตเตอร์เพียงเท่านี้กล้องก็จะประมวลผลและโชว์ภาพปัจจุบันผ่านจอให้คุณได้ชมอยู่เบื้องหน้าในทันที
4.กล้องโพลารอยด์
กล้องถ่ายรูป ชนิดพิเศษที่แตกต่างจากกล้องทุกข้อที่ได้กล่าวไปโดยกล้องโพลารอยด์นั้นสามารถถ่ายและปริ้นรูปออกมาได้เลยในคราวเดียวกัน ไม่ต้องเสียเวลาไปล้างรูปให้เสียอารมณ์ จะถ่ายแจกเพื่อนหรือทำเป็นโปสการ์ดก็แหวกแนวดี ปัจจุบันกล้องโพลารอยด์ได้เพิ่มฟังก์ชันพิเศษมากมายเข้าไปให้นักถ่ายภาพได้ลิ้มลองความพิเศษของกล้องนี้ไปด้วยกัน
5.กล้อง Mirrorless
กล้องขนาดเล็กที่ถูกพัฒนามาจากกล้อง DSLR โดยมีคุณสมบัติที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้เช่นกัน Mirrorless ต่างจาก DSLR ตรงที่ไม่มีกระจกสะท้อนภาพทำให้ตัวกล้องมีน้ำหนักเบาขนาดเล็กลงอย่างมาก ผู้ใช้สามารถพกพาได้ง่ายมากกว่า DSLR นอกจากนี้ในด้านการพัฒนา กล้องมิลเลอร์เลสถือว่าพัฒนาไปได้ไกลมากเนื่องจากสามารถใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ได้เท่าเทียมกับกล้อง DSLR เลย ยิ่งเซ็นเซอร์ใหญ่คุณภาพของภาพก็ยิ่งดีขึ้นไปด้วยนอกจากนี้ด้วยพลังของ social ช่างภาพบางท่านอาจต้องการให้ภาพที่ถ่ายไปอยู่บนโซเชียลของตนเองอย่างรวดเร็ว กล้อง mirrorless มีระบบส่งภาพไปที่คอมพิวเตอร์หรือมือถือของท่านได้อย่างง่ายดาย เพียงเท่านี้การแชร์และไลค์ภาพอะไรก็เกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่นาที
บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลของ กล้องถ่ายรูป ที่เรานำมาให้อ่านกัน แม้กล้องบางประเภทจะมีความคล้ายคลึงกันแต่ก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมดไปซะทีเดียว กล้องถ่ายรูปแต่ละอันยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของมันโดยจะแสดงออกทางรูปลักษณ์ของกล้อง การใช้งานและแน่นอนว่าจะสะท้อนออกมาในรูปภาพที่ถ่ายอย่างแน่นอน เพราะกล้องแต่ละประเภทจะให้อารมณ์ของภาพที่แตกต่างกัน คนที่ชื่นชอบและรักในการถ่ายภาพจะรู้ในข้อนี้ดี
Credit comperaichi.com moncleroutletsales.com ComBlizzard.com cameragooru.com aaviagar.com